แพลนเนอร์คืออะไร
มีเยอะมากมายแล้วเราจะเลือกใช้ยังไง
วันนี้ On da Desks พามาหาคำตอบกันจ้า
ตามมาอ่านกันได้เลย
แพลนเนอร์คืออะไร ?
แพลนเนอร์คือเครื่องมือที่ช่วยจัดระเบียบชีวิต
และช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้
เพราะในแต่ละวันเรามีสิ่งที่จะต้องทำมากมาย
ถ้าเราไม่ได้เขียนมันออกมา มันก็อาจจะทำให้เราลืมในบางเรื่องได้
ดังนั้นการที่เราเขียนมันออกมา มันทำให้เราเห็นภาพว่าเราต้องทำอะไรบ้าง
ซึ่งมันดีกว่าการที่เราคิดลอยๆอยู่ในใจ
และทำให้เราจัดสรรเวลาเพื่อไปทำสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นด้วย
เมื่อเราทำได้ทุกอย่างที่เราตั้งใจ เราก็จะได้รับเป้าหมายนั้นนั่นเอง
แพลนเนอร์จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยเราได้มากเลยทีเดียว
การเขียนแพลนเนอร์
ถ้าเราเขียนก่อนที่เราจะทำมันคือการวางแผน
ว่าเราจะทำอะไรบ้างเพื่อให้เราได้เตรียมตัว
แต่ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแล้ว แล้วเรามาเขียนทีหลัง
จะเป็นการบันทึก
เพื่อเก็บข้อมูลว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง
หรือเพื่อ Tracking ว่าเราทำอะไรไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว
แพลนเนอร์ช่วยอะไรได้บ้าง ?
แพลนเนอร์ช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน
แพลนเนอร์ช่วยวางแผนเพื่อให้เราได้รับเป้าหมาย
แพลนเนอร์ช่วยให้เราจัดสรรเวลาได้ดี
แพลนเนอร์ช่วยให้เรามีการเรียนดีขึ้น
แพลนเนอร์ช่วยเปลี่ยนนิสัยให้เรา
แพลนเนอร์ช่วยจดบันทึกความทรงจำที่ดี
แพลนเนอร์ช่วยเราบริหารเงินได้
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้
ประโยชน์และความสำคัญของการใช้แพลนเนอร์
ประเภทของแพลนเนอร์
แพลนเนอร์แบ่งเป็นใหญ่ๆ 2 ประเภทคือ
แพลนเนอร์แบบสำเร็จรูป และแพลนเนอร์ที่เราวาดขึ้นมาเอง (Bullet Journal)
ข้อดีของแพลนเนอร์สำเร็จรูปคือ
มีรูปแบบตายตัวที่เค้าคิดมาให้เราแล้วเราสามารถเขียนตาม Template ได้เลย
ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามาคิดเอง แต่ข้อเสียคือ เราอาจจะไม่ได้แบบที่เราถูกใจทั้งหมด
ข้อดีของแพลนเนอร์วาดเอง หรือที่เรียกว่า Bullet Journal
สามารถกำหนดขึ้นมาได้เองเลยว่าเราอยากได้แบบไหนค่อนข้างที่จะอิสระ
และได้ตามที่เราต้องการแต่ข้อจำกัดคือมันใช้เวลานานในช่วงแรก
สำหรับคนที่ไม่เคยทำอาจจะทำให้รู้สึกยากและขี้เกียจทำและล้มเลิกได้ง่าย
**** คำแนะนำสำหรับมือใหม่ให้ทดลองใช้แบบสำเร็จรูปก่อน
เมื่อเราใช้จนคล่องแล้วเราค่อยใช้แพลนเนอร์แบบที่เราทำขึ้นมาเอง ****
รูปแบบของแพลนเนอร์
แพลนเนอร์มีหลายรูปแบบมันเลยทำให้คนที่เริ่มหัดใช้เลือกได้ยากว่าเราจำเป็นต้องใช้แบบไหน
แต่จริงๆแล้วถ้าเราเข้าใจรูปแบบของแพลนเนอร์ก็จะทำให้เราเลือกแพลนเนอร์ที่เหมาะสมกับเราได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
รูปแบบของแพลนเนอร์จะแยกออกไปตามมุมมองที่เรามองเห็น
นั่นคือแบบ รายปี รายเดือน รายสัปดาห์ และรายวัน
คือใน 1 หน้ากระดาษเราสามารถมองเห็นวันต่างๆได้มากขนาดไหน
ถ้าเป็นแบบรายปีเราจะมองเห็นทั้ง 12 เดือนหรือวันครบ 365 วัน
ถ้าเป็นแบบรายเดือนเราก็เห็นวัน 30 วันของเราใน 1 หน้ากระดาษ
ถ้าเป็นแบบรายสัปดาห์เราก็จะเห็นวัน 7 วันของเราใน 1 สัปดาห์
ถ้าเป็นแบบรายวันเราจะเห็นแผนการใน 1 วันหรือเวลา 24 ชั่วโมง
ซึ่งแพลนเนอร์ในแต่ละมุมมองก็จะมีเยอะ มีรูปแบบให้เลือกเยอะมาก
ดังนั้นถ้าเราจะเลือกรูปแบบ ให้เลือก รายปี รายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน อย่างละ 1 แบบเท่านั้น
เราไม่จำเป็นต้องเลือกรูปแบบที่เป็นรายสัปดาห์หลายๆอัน
สมุดแพลนเนอร์ของร้าน Mellenehouse คุณสามารถเลือกรูปแบบเองได้ สนใจคลิกได้เลยจ้า
การเลือกรูปแบบมุมมองแพลนเนอร์ ถ้าเราเลือกครบ ทั้ง 4 รูปแบบ
มันก็จะครอบคลุมการวางแผนของเราได้มากที่สุด
ซึ่งในสมุดแพลนเนอร์ทั่วๆไปที่ขายตามท้องตลาด ส่วนใหญ่จะใส่มาให้ครบทุกมุมมองอยู่แล้วแต่
จะไม่ค่อยมีแบบรายวัน เพราะจะต้องใช้กระดาษเยอะ (1 วัน 1 หน้า)
จำเป็นต้องมีถึง 365 หน้า ซึ่งก็อาจจะทำให้สมุดเล่มหนาเกินไป
แต่ใน iPad สามารถทำได้ง่ายกว่า เพราะไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องจำนวนหน้า
กดเข้าไปดู แพลนเนอร์บน iPad ของร้าน Mellenehouse ได้เลย
แพลนเนอร์มุมมองรายปี
ใน 1 หน้ากระดาษจะเห็นครบ 12 เดือน หรือวันครบ 365 วัน
เป็นมุมมองที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของเราทั้งปี ว่าเราจะทำอะไรบ้าง หรือมีวันสำคัญวันไหน ในมุมมองแบบกว้างๆ
แพลนเนอร์นี้ส่วนใหญ่จะเอาไปใช้ ในการจดวันสำคัญต่างๆ วันเกิด
วันที่จะไปเที่ยว งานสำคัญ หรือการวางแผนงานทั้งปี เป็นต้น
หรือเป็นการบันทึกอะไรที่เป็นสัญลักษณ์ง่ายๆ เพื่อ Tracking ก็ได้ เช่น บันทึกอารมณ์แยกเป็นสีตลอด 1 ปี ,
จดบันทึกประจำเดือนว่าใน 1 ปีเรามีประจำเดือนวันไหนบ้าง
แพลนเนอร์มุมมองรายเดือน
ใน 1 หน้ากระดาษจะเห็นวัน 30 วันของ 1 เดือน
เป็นมุมมองที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของเราทั้งเดือน ซึ่งก็จะเป็นมุมที่แคบลงมาจากมุมมองรายปี
ทำให้เราสามารถกำหนดรายละเอียดในแต่ละวันได้มากขึ้น
แต่แพลนเนอร์นี้ส่วนใหญ่จะนำมาใช้เพื่อบันทึกนัดหมายคร่าวๆ ว่าใ
นวันๆนั้นของเดือนเราจะเอาไปทำอะไร ซึ่งใน 1 วันก็จะไม่ได้แสดงรายละเอียดอะไรมาก
และให้เราเห็นภาพรวมว่าวันไหนเรามีงานไหนจำเป็น วันไหนเราพอมีเวลาว่างเพื่อนำไปวางแผนจัดการเรื่องอื่นๆ ได้
ส่วนใหญ่ที่เห็นของแพลนเนอร์มุมมองรายเดือน จะเป็นตารางปฏิทิน ซึ่งเป็นแพลนเนอร์ที่คนนิยมใช้มากที่สุด
แพลนเนอร์มุมมองรายสัปดาห์
เป็นแพลนเนอร์ที่ทำให้เราเห็นวันทั้ง 7 วันของเราทั้ง 1 สัปดาห์
ส่วนใหญ่จะมาในแบบหน้าคู่ เพราะทำให้มีพื้นที่ได้การเขียนได้เยอะ
แพลนเนอร์แบบนี้จะสามารถทำให้เราลงรายละเอียดในแต่ละวันได้มากขึ้น และทำให้เราจัดเวลาได้ดี
เพราะเราจะรู้ว่างานวันไหนของเราเยอะหรือน้อยยังไง และมีเวลาว่างช่วงไหนบ้าง
แพลนเนอร์นี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเขียนรายละเอียดที่เยอะขึ้นมา
หรือคนที่ต้องการจัดสรรเวลา จะแนะนำแพลนเนอร์ที่เป็นตารางเวลา ให้เราเห็นเวลาของเรา 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วันเลย
แพลนเนอร์แบบนี้จะทำให้บริหารเวลาได้ง่าย เพราะเราจะรู้เวลาของเราใช้ไปกับอะไร
แพลนเนอร์มุมมองรายสัปดาห์จะเป็นแพลนเนอร์ที่มีรูปแบบหลากหลายที่สุด
แล้วแต่จุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สามารถลองเลือกให้เหมาะกับตัวเอง
แพลนเนอร์มุมมองรายวัน
เป็นแพลนเนอร์เขียนรายละเอียดของเราใน 1 วัน
สำหรับคนที่ต้องการการโฟกัสในแต่ละวันมากๆ ว่าจะใช้เวลาไปกับอะไร
หรือเหมาะกับคนที่ชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น คล้ายๆกับการจดไดอารี่เพื่อให้เรากลับมาดู
จะเป็นแพลนเนอร์ที่มีหลายรูปแบบ แล้วแต่จะเลือกให้เหมาะสม แต่แนะนำว่าควรเลือก
แพลนเนอร์ที่มีตารางเวลา เพราะว่า เราจะได้จัดเวลาของเราใน 1 วันของเราได้ง่ายด้วย
แพลนเนอร์เฉพาะเรื่อง
เป็นแพลนเนอร์ที่เค้าออกแบบมาให้เราไปใช้กับเรื่องต่างๆโดยเฉพาะ
เช่น แพลนเนอร์รายรับรายจ่าย , แพลนเนอร์เปลี่ยนนิสัย (Habit Tracker) ,
Dreamlist เขียนความฝัน , แพลนเนอร์ออกกำลังกาย เป็นต้น
วิธีการเลือกแพลนเนอร์ให้เหมาะสมกับตัวเอง
การที่เราจะเลือกแพลนเนอร์ที่เหมาะกับตัวเองได้นั้น เราจะต้องเป็นคนที่มีเป้าหมายก่อนว่า
เราจะเขียนแพลนเนอร์ไปเพื่อ อะไร
เพราะถ้าเราไม่มีเป้าหมาย เราจะไม่มีทางเลือกแพลนเนอร์ของเราได้เลย
ถ้าเรามีเป้าหมายแล้ว การเลือกแพลนเนอร์มาใช้ได้ง่ายมากขึ้น
หรือต้องการปรึกษา สามารถแอดไลน์มาถาม และขอคำแนะนำได้เลยจ้า ยินดีมากๆค่า
LINE: @iplanner
สนใจอยากรู้รายละเอียดสินค้า iPlanner แพลนเนอร์ ไอแพด เพิ่มเติม ตามมาที่นี่เลยค่ะ
เป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะ. อยากให้ทำอีกค่ะ